วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[INTERESTING PLACE]THE COTSWOLDS

[INTERESTING PLACE]THE COTSWOLDS
Please have your boarding pass and passport ready. Thank you and enjoy your flight.

  











We are glad to take care of you
T'ta












วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

[SERIES]Dream High

Dream High



นักแสดงนำ









นักแสดงอื่นๆ Dream High
Jun Ah Min (전아민) - Jo In Sung
Han Ji Hoo - Park Do Joon
Yoon Young Ah - Lee Ri Ah
Park Jin Sang (박진상) - Jun Tae San
Kim Bo Reum (김보름) - Ha So Hyun
Bae Yong Joon - Jung Ha Myung (นักแสดงรับเชิญ ep 1-4)
Lee Yoon Mi - Maeng Seung Hee
Baek Won Kil (백원길) - Gong Min Chul
Ahn Kil Kang - Ma Doo Shik
Ahn Sun Young - Kang Oh Sun
Lee Hye Sook - Song Nam Boon
Choi Il Hwa - Hyun Moo Jin
Park Hyuk Kwon (박혁권) - Go Byung Jik
Jung Min Joo (정민주) - Jung Ah Jung
Lee Byung Joon - Shi Bum Soo
Ahn Seo Hyun - Go Hye Sung
Kim Hyun Joong - นักแสดงรับเชิญ
Jo Soo Mi (조수미) - นักแสดงรับเชิญ (ep 1)
เรื่องย่อ Dream High
   เรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนคิริน 6 คน ที่ต้องการทะยานสู่ความฝันอันสูงส่งที่จะเป็นดาวดังของวงการบันเทิง Dream High โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงที่ต้องการปั้นนักเรียนให้เป็นดาวประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง ที่รวมไว้หลากหลายสาขาที่นักเรียนจะเลือกเดิน มีทั้งร้อง เต้น และการแสดง นักเรียนแต่ละคนต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่ต้องฝ่าฟันและยังเห็นเบื้องลึก ของวงการบันเทิงเกาหลีที่แท้จริงอีกด้วย
รายละเอียดอื่นๆ
림하이 / Dream High
นักแสดง : Taecyeon, Woo Young, Suzy, IU, Eun Jung, Kim Soo Hyun
กำกับโดย : Lee Eung Bok
จำนวนตอน : 16
ประเภท : School, Romance
ผลิตโดย : KeyEast, JYPE, and CJ Media (Bae Yong Joon, Park Jin Young)
Written By : Park Hye Ryun (박혜련)
ออกอากาศ KBS2 : ทุกวันจันทร์และวันอังคาร เวลา 21:55 น. 3 ม.ค. 2011
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.kodhit.com/dream-high
*************************************************************
   ซีรีย์ที่ตระการตาไปด้วยเหล่าไอดอลที่มากไปด้วยฝีมือ สามารถสร้างความประทับใจให้กับคอซีรีย์ด้วยเนื้อเรื่องสนุกๆ เสียงเพลงเพราะๆ และฉากสวยๆ 


   ฮ่าๆๆ ในตอนแรกนั้น ตุ๊กตาก็งงๆ เอ๊ะคนไหนคือพระเอก มันมีมาให้คิดถึงสองคน แถมหล่อเหมือนกันซะด้วย (ไม่รู้คนอื่นจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า--) ลองไปดูกันค่ะ คนแรก จินกุก(แทคยอน วง2pm)

  

   และอีกคน ซัมดง(คิมซูฮยอน)



   หล่อเลือกยากจริงๆ ใช่มั้ยคะ? ยอมรับว่าดูจบไปนานแล้วแต่ก็ยังเลือกไม่ถูกเลย ฮ่ะๆ คนนั้นก็ดีคนนี้ก็หล่อ ตายละ! ด้วยความสนใจส่วนตัวทำให้เราลืมพูดถึงนางเอกไปเลย โกฮเยมี(ซูซี่ วง MissA)สาวน้อยน่ารักเสียงดีที่ขโมยหัวใจใครหลายๆ คนไปโดยที่ไม่รู้ตัวค่ะ


   อีกคนที่เป็นตัวดำเนินเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ยุนเบคฮี(ฮัมอึนจอง วง T-ara) ตุ๊กตาก็สงสัยว่าเคยไปเห็นหน้าของเธอคนนี้ที่ไหนน้า~ จนกระทั่งเรื่องราวผ่านไปหลายตอน เพิ่งมานึกออกว่าเคยเห็นใน MV เพลงของวง FT.ISLAND (สุดที่รักของตุ๊กตาเอง อิอิ ^^) 


   และสีสันสุดน่ารักของเรื่อง! เค้าและเธอที่สร้างรอยยิ้มให้กับเราได้ตลอด ไม่ว่าเรื่องราวของคนอื่นๆ จะวุ่นวายขนาดไหน แต่คู่นี้ก็ยังน่ารักอยู่เสมอ ฮ้า~ อยากมีความรักแบบนี้มั่งจัง(เพ้อไปแล้ว --)  ฮ่ะๆ ก่อนที่ตุ๊กตาจะฝันเฟื่องไปมากกว่านี้ เราไปดูภาพน่ารักๆ ของเจสัน(อูยอง วง2pm) และ คิมพิลซุก(IU)กันดีกว่า กว่า กว่า(แล้วจะแอคโค่เพื่อ??)




   ด้วยความที่สนใจเหล่าพระเอกมาก(เกิน)ไปหรือเปล่า ช่วงท้ายๆ รู้สึกเหมือนเข้าคู่กันบ่อย ชวนจิ้นนนน ฮ่าๆๆๆ


   นี่ก็เป็นสีสันเล็กๆ น้อยๆ ที่ตุ๊กตานำมาฝากกัน แต่ถ้าอยากได้ความสนุกแบบเต็มๆ ล่ะก็ คงต้องไปรับชมด้วยตัวเองนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ -- ได้ดูพัฒนาการของแต่ละคน รับรู้ถึงความฝันที่อยู่ในตัวพวกเค้าและล้วนมีอยู่ในตัวของเราทุกคน ค่อยๆ เข้าใกล้ปริศนาที่ตั้งไว้ให้เราสงสัยตั้งแต่ต้นเรื่อง...
   ...ใครคือ K

T'ta


















วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

...ทะเลใจ...

ทะเลใจ...


   หนึ่งปีมี 365 วัน...คุณสามารถรู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่มาได้กี่วันแล้ว เพียงแค่เอาอายุของคุณนั้นคูณเข้าไป นั่นมันอาจจะทำให้คุณได้คำตอบของวันเวลาทั้งหมดของคุณตั้งแต่เกิดจวบจนปัจจุบัน แต่ถ้าคุณอยากรู้ว่ากี่วันในนั้นที่คุณมีความสุขแล้วล่ะก็...คุณไม่สามารถที่จะคิดมันออกมาได้หรอก ก็เหมือนกับการคิดหาจำนวนวันที่คุณรู้สึกเป็นทุกข์นั่นแหละ นั่นมันก็ไม่สามารถที่จะคิดหาได้เช่นกัน
   แต่จำนวนวันที่ไม่แน่นอนนั้น มันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะปัญหาที่แท้จริงไม่ได้มาจากเราหาคำตอบของจำนวนวันนั้นไม่ได้ แต่ปัญหาที่แท้จริงมันมาจากสิ่งที่เกิดในชีวิตของเรา มันเกิดจากความทุกข์...ความผิดหวัง...ความล้มเหลว...ความเจ็บปวด และอีกหลายความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นกับตัวของคุณ แล้ววิธีแก้ปัญหาล่ะ?...มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้หรอกนอกจาก...ความสุข...ความสมหวัง...ความสำเร็จ...ความสบาย และอีกหลายๆ ความรู้สึกด้านบวกที่เกิดขึ้นกับตัวของคุณ
   แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความรู้สึกด้านบวกพวกนั้น?
   คำตอบเดียวที่จะมีให้คงเป็น...หัวใจของคุณ -- เพราะจะสุขจะทุกข์มันก็ขึ้นอยู่ที่ใจ งั้นก็ขอให้คุณรักษาหัวใจตัวเองให้ดี ฝึกฝนให้ใจตัวเองแข็งแกร่ง โดยพึงระลึกไว้ว่า
   การมีหัวใจที่แข็งแกร่งไม่ใช่การร้องไห้ไม่ได้ ที่เราร้องไห้เพราะเราเสียใจ มันเป็นการระบายออกมาอย่างหนึ่ง แน่นอนว่ามันอาจไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่มันก็แสดงออกว่าเรารู้สึกผิด และเราจะไม่ทำให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นอีก อย่าเก็บน้ำตานั้นเอาไว้ ปล่อยให้มันออกมาพร้อมกับสติของคุณคงดีกว่า
   การมีหัวใจที่แข็งแกร่งคือการให้อภัย แต่การไม่ให้อภัยคือการใจแข็งและใจแคบ
   การมีหัวใจที่แข็งแกร่งคือการต่อสู้ แต่ไม่ใช่ต่อสู้ด้วยพละกำลังระหว่างกัน มันเป็นการต่อสู้ด้วยหัวใจ แม้จะเป็นหัวใจของเราเพียงดวงเดียวก็ตาม จำเอาไว้ว่าอย่าคิดไปสู้กับคนอื่น จงสู้กับหัวใจของตัวเองนี่แหละ ซึ่งเมื่อคุณได้ลองแล้ว...อาจจะเข้าใจได้เลยว่า มันยากจริงๆ หัวใจของเราเองนั้น...มันยากที่จะหยั่งถึงอย่างนี้นี่เอง พยายามจะกลับขึ้นไปเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะกลับขึ้นไปไม่ได้ซักที จนหลายคนเริ่มท้อ--และกลับลงมาเพื่อต่อสู้กับคนอื่นเช่นเดิม แต่นั่นน่ะเหรอที่เรียกว่าความสำเร็จ? มันไม่ใช่ เพราะความสำเร็จที่แท้จริง คือการเอาชนะใจของตัวเอง 
   จงต่อสู้อย่างเต็มกำลังเพื่อที่จะฝ่าฟันอุปสรรคและเอาชนะใจตนให้ได้ อย่าตกลงไปในหลุมลึกอีก แต่ถ้าใครได้เผลอตกลงไปในนั้นแล้ว สู้ค่ะ...มันไม่สายถ้าเราจะแหวกว่ายขึ้นมาจากที่ตรงนั้น...ทะเลใจ แค่คุณหัดว่ายน้ำให้ได้ แล้วว่ายขึ้นมาจากทะเลนั้น อย่าตกใจถ้าคุณจะเผลอพลั้ง แล้วพลาดตกลงไปอีก เพราะยังไงคุณก็ว่ายน้ำเป็นแล้ว...จงต่อสู้อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ใช้กำลังใจจากคนที่คุณรักเพื่อเป็นกำลังในการไปต่อ จนถึงวันนั้น...วันที่คุณจะไม่ตกลงไปในนั้นอีก
   ...ในทะเลใจ 

เหมือนชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
วันที่ผ่านมาไร้จุดหมาย
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน

เหมือนชีวิตผันผ่านคืนวันอันเปลี่ยวเหงา
ตัวเป็นของเราใจของใคร
มีชีวิตเพื่อสู้คืนวันอันโหดร้าย
คืนที่ตัวกับใจไม่ตรงกัน

คืนนั้นคืนไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ
ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์
อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น

คืนนั้นคืนไหน ใจเพ้อฝัน
คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก
ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก
พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ

ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข

คืนนั้นคืนไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ
ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์
อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น

คืนนั้นคืนไหน ใจเพ้อฝัน
คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก
ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก
พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ

ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข

ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข
      

T'ta

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

5 วิธีแก้หนาววว~

   หนาววววววว~~~
   โลกนี้มันเป็นอะไร --; แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเมืองไทยต้องมาพบเจอกับความหนาวในเดือนมีนา! พระเจ้า!!! จำไม่ผิดนี่มันน่าร้อนนี่คะ! ไม่น่าที่จะต้องมาหนาวสั่นฟันกระทบกันตอนอาบน้ำนะ (ตุ๊กตาเพิ่งไปใส่เหล็กจัดฟัน อย่าให้พูดเลยค่ะว่าพอฟันกระทบกันมันเจ็บปวดแค่ไหน?) เอาล่ะๆ ยังไงเรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว หนาวไปแล้ว หนาวไปแล้ว(แล้วจะพูดซ้ำทำไม --;) เพราะฉะนั้น มาคิดกันดีกว่าว่าเราจะหาทางคลายหนาวยังไงดี



   1. แฟชั่นกันหนาว  หนาวมากใช่ม๊ายยยย!~ งั้นก็อัดคอสตูมตู้มลงไปเลย เสื้อกันหนาวตัวหนาเอย เสื้อไหมพรมเอย ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า บลาๆๆ ในประเทศไทยคงไม่ค่อยได้พึ่งเจ้าพวกนี้เท่าไหร่นัก เพราะว่าภูมิอากาศของบ้านเรานั้น...หนาวเกิ๊นน! จะได้ใส่กันก็ตอนไปแอ่วดอยตอนฤดูหนาวนั่นแหละ และเพราะว่ามีโอกาสได้ใส่น้อย เราก็เลยต้องจัดเต็มเมื่อถึงเวลา ก็แหมมมม~ ชุดกันหนาวนี่น่ารักจะตาย! ใส่กันพองๆ...ปิดพุง ฮ่าๆๆๆ นั่นมันแค่ผลพลอยได้ค่ะ อันที่จริงการเลือกชุดกันหนาวดีๆ มันก็เป็นแฟชั่นอยางนึงนะคะ อย่างที่เราเห็นกันในซีรีย์เกาหลี แม๊~ น่ารักเชียว! ครั้นเราจะใส่เดินตามสยามในหน้าร้อนก็คงจะดูแปลก อาจมีคนสงสัย เอ๊ะ ยัยคนนี้บ้าหรือเปล่า ร้อนตับจะแลบ! เพราะฉะนั้น น้ำขึ้นให้รีบตักค่ะ! หน้าหนาวทั้งที...ก็มาแฟชั่นกันหนาวกันเถอะพี่น้อง จะเลือกใส่สีสดใส หรือสีเรียบๆ ก็ตามแต่ใจ ขอให้ใส่แล้วดูดีก็แล้วกันน!



   นั่นแหละค่ะ แฟชั่นแบบน้านน~ แต่งกายให้เข้ากับเสื้อผ้าหน้าผม อย่างฮงกีของเราเนี้ย ผมสีอ่อนๆ ตัดกันกับเสื้อกันหนาวสีเข้ม ว้าว~ เข้ากันดีใช่มั้ยล่ะ น่ารักม๊ากมาก...นายแบบอ่ะนะ:p

   2. ห่มผ้า  เบๆ เลยค่ะเรื่องนี้ เมื่อหนาวก็ต้องห่มผ้าใช่มั้ยคะ! พูดถึงเรื่องนี้คงไม่ต้องแฟชั่นกันนัก ปัดโธ่เอ๊ย! ก็ใครมันจะไปมองคุณอิตอนนอนห่มผ้าล่ะคะ! เราคงไม่ต้องไปหาซื้อผ้าห่มลายสวยๆ เพราะไงไอ้ลายสวยๆ นั่นคงไม่ช่วยทำให้คนห่มรู้สึกอบอุ่นขึ้น และบางที ไอ้ผ้าห่มเน่าๆ ที่ใช้มานานแล้ว อาจจะเป็นผืนที่อุ่นที่สุดก็ได้ ^^ แต่ดีที่สุด...ผ้าห่มสวยด้วย...อุ่นด้วย(นั่นไงล่ะ--;) ยิ่งเป็นผืนที่มีความทรงจำ อาจจะเป็นคนที่รักซื้อให้ ก็คงจะเป็นผืนที่อุ่นที่สุด เพราะว่ามัน...อุ่นทั้งกาย อุ่นทั้งใจ ไงล๊า~


   ตั้งใจจะให้สื่อถึงผ้าห่ม แต่โกมินัมและหมูกระต่ายดันเด่นกว่าซะงั้น--; ฮ่ะๆ

   3. กอดหมอน  ตรงตามตัวเลย หมอนหนุนหัว หมอนข้าง หมอนอิง สามารถนำมากอดได้หมด แต่ขอแนะนำว่าควรจะใช้ให้ความอบอุ่นในกรณีที่ไม่ได้หนาวมากมายนัก และ...ถ้าจะใช้ในกรณีที่หนาวใจด้วยก็ตามใจ (เห็นในเพลงนิยมกันจัง-0-)

 
   คงจะอยากกอดหมอนกันขึ้นมาบ้างแล้วสินะ หึหึ คือว่า...เราจะสั่งซื้อหมอนใบเดียวกันกับในภาพได้ที่ไหนคะ!? (หื่นขึ้นมาทันที--)

   4. ปิดแอร์  เป็นการช่วยชาติประหยัดไฟไปด้วยในตัว ในหน้าร้อนเราอาจจะเปิดอุณหภูมิ 25 องศาฯ ตามนโยบาย แต่เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว หรือว่าในวันที่อากาศเย็นๆ เราอาจจะปิดแอร์ไปเลย ก็แหม~ จะใช้ทำไมล่ะคะ? อากาศภายนอกมันเย็นกว่านี่นา งั้นเราก็ใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติดีกว่าเนอะ สัมผัสกับอากาศเย็นๆ ลมหนาวๆ จิบชาไปพลาง ฟังเพลงรักเบาๆ ไปพลาง โอ่ววว...โรแมนติก 
   


   5. หาคนมากอดคลายหนาวซักคน แหม~ เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายของใครบางคน แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับใครอีกหลายคนนะคะ(เช่นตุ๊กตาเอง Y Y) อุณหภูมิลดทีนี่ถือเป็นเรื่องดี แอบคิดในใจ...ได้เรื่องกอดแล้วตู หึๆๆ คนโดนกอดนี่ก็ทำอิดออด ตัวเองจะมากอดเค้าไมอ้ะ~ แต่คิดไปคิดมา มันก็อุ่นดีเหมือนกันนะเออ ฮ่าๆ



   ในรูปนี่...กอดรึว่านอนทับคะ--* เอาเถอะ ให้อภัยๆ เพราะใช่ว่าคนๆ นี้จะหากันได้ง่ายๆ นี่คะ ต้องดูให้ดี ศึกษาให้ดี เราก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนกันบ่อยๆ ใช่มั้ยล่ะคะ:) ภาวนาให้ทุกคนเจอคนนั้น...คนที่กอดแล้วอบอุ่น โดนกอดก็อบอุ่น...หึหึ เจอกันทุกคนเถ๊อะ เพี้ยง!

   เป็นยังไงบ้างคะกับวิธีคลายหนาวทั้ง 5 วิธี หวังว่าจะพอช่วยทุกคนที่กำลังต้องการความอบอุ่นได้นะคะ แต่ก็มีข่าวดี(หรือเปล่า?)จะมาบอกด้วย นั่นก็คืออุณหภูมิในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นค่ะ! เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นแบบพุ่งพรวด เอาให้ไม่เชื่อเลยว่าเมื่อวานกุรู้สึกหนาวนะ >< หรือว่าจะเพิ่มขึ้นแบบค่อยๆ เป็น...ค่อยๆ ไป เอาเป็นว่า คอยดูกับตา--สัมผัสกับตัวดีกว่านะคะ ^^ 
T'ta





วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

ว่าด้วยเรื่องบัดดี้ๆ...

   Buddy...
   เคยเล่นกันมั้ยคะ -0- เกมส์จับคู่เทคแคร์ที่คนเล่นคงแอบดีใจเล็กน้อย(หรือมาก--;) ถ้าคนเทคเรามันเป็นเจ้าพ่อรึเจ้าแม่บุญทุ่ม ฮี่ๆ ขนมเอย นมเอย ของถูกฝากส่งมาทีไรนี่เล่นเอาเพื่อนๆ อิจฉากันเป็นแถว ฮ่าๆ ว่าแต่เราจะพูดถึงเกมส์นี้กันทำไม? ใช่แล้วล่ะ ก็มันคือต้นเหตุของเรื่องน่าอับอายที่ยังฝังใจมาตลอดหลายปี...(และคงจะตลอดไป T^T) เรื่องของเรื่องก็คือตุ๊กตาได้มีโอกาสเล่นเกมส์นี้อิตอนที่ไปเข้าค่ายวิศวะของมหาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง การจับฉลากเลือกพี่บัดดี้บังเกิดขึ้นเป็นกิจกรรมแรกๆ นั่นแสดงว่า เราจะต้องเทคพี่ค่ายคนนี้ตลอดระยะเวลา 4 คืน 5 วัน! โอ่วววว...  กล่องใส่ฉลากใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ...ตื่นเต้นดีมั้ย? จำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แฮะ แต่สุดท้าย เราก็จับมันมาใบนึง:)
   ฮี่ ฮี่ กระดาษแผ่นน้อยค่อยๆ เลื่อนเปิดออก...อย่างช้าๆ...(แล้วจะสโลโมชั่นทำไม--;)
   พี่...ต...(โอเค เราจะเรียกเค้าว่าพี่ต.)
   ดูจากชื่อ...ผู้ชายว่ะ ตายแล้วๆๆๆ รู้สึกปั่นป่วนในท้อง อาการแพ้ผู้ชายกำเริบ จะเป็นไปได้มั้ยที่พี่ต.จะเป็นผู้หญิง ซึ่งก็ได้แค่หวัง เพราะหลังจากจับฉลากแล้วก็ได้มีการแนะนำตัวพี่ทั้งหมดในค่าย และนั่นไง พี่ต.ของเรา ผู้ชายตัวเล็กๆ ขาวๆ น่ารัก(เหรอ--?) โอ่ว...ม่าย ที่แย่ไปกว่านั้นคือเค้ากลายมาเป็นพี่ที่ดูแลประจำกลุ่ม ใกล้กันเกินไปแล้ว จะดีใจ? รึเสียใจดี? ไม่มีเวลาคิดถึงข้อนั้น--เราเข้ากลุ่มกันทันที มีการแนะนำตัวเล็กๆ ภายในกลุ่ม มีการแอบมองพี่บัดดี้นิดหน่อยพอกรุ้มกริ่ม ฮุฮุ แต่นอกจากเราจะต้องเทคพี่แล้ว อย่าลืมว่ามันก็ต้องมีพี่ที่เทคเราด้วย เค้าไปจับฉลากกันตอนไหนก็ไม่ทราบแหละ เอาเป็นว่ามีแล้วกัน ซึ่งพี่คนนั้นก็ต้องเป็นความลับ แต่คือเราอยากรู้ไง แหะๆ แต่ก็ไม่ใช่จะไปเสิร์ชเน็ตแล้วเจอนี่หว่า แล้วไอ้พี่เทคนี่ก็มีตัวตนมาแต่ตอนกินข้าว ฝากโน่นมาบ้างล่ะ นี่มาบ้างล่ะ ที่จำได้ดีคือข้าวโพดอ่อนทอด จะส่งมาทำม๊ายยยย นอกจากนี้ก็มีน้ำเปล่า นม --; คือแต่ละอย่างนี่ของๆ ค่ายทั้งนั้นอ่ะ ในเมื่อไม่รู้ว่าใครคือพี่เทค ชีวิตที่เหลือจึงหมดไปกับการ...ภาวนาให้เค้าคือพี่เทค...ฮ่าๆๆๆ ฝันลมๆ แล้งๆ ไปตลอดการเข้าค่าย--
   และแล้วก็ถึงวันที่ต้องเปิดโปงทุกสิ่ง ใครเทคใครแคร์ใคร ในคืนสุดท้ายนี้ มันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป! การเฉลยบัดดี้จะเริ่มจากให้น้องค่ายนั่งหลับตากันเป็นวงกลม แล้วพี่ที่เทคเราเนี่ย จะมานั่งข้างหน้า เมื่อพร้อมแล้ว...ทุกคนจะลืมตา ทาด้า!~~ คนนี้นี่เองพี่เทค^O^
   น...นมวัวแดงไทย-เดนมาร์ค -- ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี ใยพี่เทคกุเหลือแค่กล่องนม มองไปทางซ้าย พี่ที่แอบหวังว่าจะเป็นพี่เทคนั่งยิ้มหน้าระรื่นกับน้องบัดดี้ของเค้า Y^Y มองไปทางขวาอีก พี่-น้องบัดดี้นั่งเรียงกันเป็นตับ มองมาที่ด้านหน้าอีกครั้ง ดูยังพี่กุก็เป็นนม และขณะที่กำลังใจเสียอยู่นั้น พี่รหัสก็มาจากที่ไหนซักแห่ง นั่งลงตรงหน้า และที่ตรงนั้น ก็ไม่ได้มีแค่กล่องนมอีกต่อไปแล้ว...
   "งงอะไร? ทำไมไม่หยิบไปล่ะ?"
   คำตอบคือการหัวเรอะแหะๆ พี่ผู้ชายตัวใหญ่ ตาสวย ยิ้มตอบ...ภาพกิจกรรมเมื่อวันก่อนๆ ผุดเข้ามาในหัว
   ...ภาพพี่ที่ออกมารับตอนมาถึงค่าย (แต่เค้าจำเราไม่ได้ -- ดันจำเพื่อนเราได้คนเดียว T T)
   ...ภาพพี่ที่มองมา มันไม่ใช่ความบังเอิญ! แต่เพราะเค้าคือพี่เทค
   ...ภาพที่ตัวเองกำลังเต้น 'มันต้องถอน' ในฐานกิจกรรมที่พี่เค้าดูแล อ่าวเวร~ กุล่อซะมันส์เลยตอนนั้น
   "ทำไมพูดเหน่อจัง?"
   หน้าเหียกไปเล็กน้อยสำหรับคำถามนั้น ถ้าวัยเดียวกันจะตอบว่าเรื่องของกุ แต่นี่...มีศักดิ์เป็นถึงพี่เทค ก็เลยได้แต่หัวเราะหน้าระรื่นออกไป ฮึ่ม...ฝากไว้ก่อน กุเหน่อตรงไหนวะ! แม่มมม
   จบไปสำหรับพี่เทค สรุปว่า สิ่งของที่เราได้มาทั้งหมดนั้น...ตลอดวันแรกจนวันสุดท้าย...ของกินจากค่ายโอนลี่ เธอไม่ยอมเจียดเงินซื้อไรให้เราเลย จากคำบอกเล่าคือพี่เค้านอน(แม่ม)ทั้งวัน จนไม่มีโอกาสออกไปซื้ออะไร (เออ น่าเห็นใจจริงๆ )
   ต่อมา การเฉลยน้องเทคด้วยวิธีเดียวกัน พี่ต.ในวันนั้นแต่งตัวได้โดดเด่น(และน่ากลัว)มาก ไม่ต้องสังเกตให้มาก เดินเข้าไปนั่งด้านหน้าด้วยเวลาอันรวดเร็ว ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า การเฉลยบัดดี้นั้น จะต้องมีของสมนาคุณให้กับคนที่เทคเราด้วย เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แล้วแต่ศรัทธา นั่นไง ขนมพวกนั้นบนหน้าตักพี่เค้า ของสำหรับเราแน่ๆ ฮ่าๆ ระหว่างรอการลืมตา ไอ้เราก็พกความขี้เล่นมาแหย่พี่เค้า แกล้งดึงขนมออกมาจากหน้าตัก ซึ่ง...เหนียวมาก แม้จะหลับตาก็ยังรักษาขนมนั่นได้ทุกชิ้น เราจึงยังไม่ได้ครอบครองขนม(ซึ่งควรจะครอบครอง)จนกระทั่งเค้าลืมตา การคุยกันดำเนินไปเรื่อยๆ เราก็วกเข้ากลับไปคุยเรื่องขนมนั่นตลอด คิดในใจ คือจะไม่ให้กุจริงๆ เหรอ...อย่าเล่นตัวน่า! ซื้อมาให้ก็ให้ซักทีดิ ฮ่าๆๆ แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความพยายามของตุ๊กตา ขนมสองห่อและกาแฟนั่นจึงมาอยู่ในครอบครองเมื่อกิจกรรมพูดคุยเสร็จสิ้นลง
   มีความสุขกับของสองสามชิ้นนั่นไปไม่กี่ชั่วโมง สติก็เริ่มมา--ปัญญาจึงเกิด ตายห่_ เพิ่งนึกออกว่าสิ่งที่ว่านั่นคงจะไม่ใช่ของเรา ขนมและกาแฟมันคือของที่เค้าได้จากน้องบัดดี้! O-o ทำไมเพิ่งคิดด้ายยยยย!!! เริ่มอายเล็กน้อย พี่ต.คงไม่กล้าบอกว่าขนมกับกาแฟนั่นได้มาจากน้องบัดดี้ ของที่จะให้แกน่ะ ไม่มีว้อยยย!!! เอิ่ม...มันคงโหดร้ายเกินไป --;
   ชีวิตที่เหลืออยู่(ภายในค่าย)จึงเป็นการเก็บขนมอย่างหลบๆ ซ่อนๆ อิน้องบัดดี้ที่ว่านั่นดันอยู่ในกลุ่มเดียวกันอีก ถ้ามันเห็นอาจจะรู้สึกตะหงิดๆ ได้ ยัยเพื่อนก็เอามาอวดจริง ไอ้ของขวัญที่ได้จากพี่บัดดี้เนี้ยยย อิจฉาว้อย! คิดดูสิ ถ้าไม่ได้แย่งชิงขนมพวกนี้มา จะมีอะไรเหลือบ้างล่ะ พี่นี่งกจริงๆ ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้เลยเรอะ! เคยเล่นมั้ยเกมส์บัดดี้อ่ะ? ขัดใจจริง! อายด้วย ไม่มีใครรู้กับเราก็อายอยู่คนเดียวนี่แหละ ทุกวันนี้กาแฟกับขนมนั่นก็ยังอยู่ที่ชั้นบนสุดของตู้เสื้อผ้า อยู่ครบเลยล่ะ ตั้งใจจะเอาไปคืนก็ไม่มีโอกาส วันที่เลิกค่ายก็ดันไม่เจอเค้า 
   2ปีต่อมา มีโอกาสได้เจอเค้าที่มหาลัยชื่อดังนั่นในงานเปิดบ้านฯ เล็งกันไปเล็งกันมาซักพักหนึ่ง...ก็ไม่ได้ทัก(อ่าว--) เพิ่งจะมาทักก็ตอนที่เดินสวนกัน
   "น้องค่ายใช่มั้ยครับ?"
   "ค่ะ^^ "
   เพื่อนๆ ต่างอิจฉา ตุ๊กตามันเจอพี่บัดดี้ด้วยอ๊า! แต่ใครมันจะรู้กับเรา ความอายที่หายไปนานเริ่มแวบออกมา ความเสียดายที่ไม่ได้เอาของมาคืนก็ด้วย แต่ก็คิดว่าคงจะไม่เอามาคืนแล้วล่ะ มันก็ผ่านมาหลายปีแล้วนี่นา เน่าหมดแล้วทั้งขนมทั้งถุง และมันก็คงดูงี่เง่าเกินไปด้วย ฮ่ะๆ งี่เง่าจริงๆ
   อืม...แต่ขนมนั่น--จะยังอยู่ที่ชั้นบนสุดของตู้เสื้อผ้าไปถึงเมื่อไหร่กันเนี่ย --
T'ta